อยากให้รถสวยมีสไตล์เหมือนการแต่งตัว แต่ติดฟิล์มเปลี่ยนสีรถ จะผ่านตรวจสภาพไหม? ไขข้อข้องใจพร้อมขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เคยรู้สึกไหมว่ารถยนต์คู่ใจที่เราขับอยู่ทุกวัน มันก็เหมือนเสื้อผ้าชิ้นโปรดที่เราอยากให้สะท้อนสไตล์ความเป็นตัวเรา? หลายครั้งที่เรามองรถเก๋งซีดานคันเดิมๆ บนท้องถนน แล้วแอบฝันว่าอยากจะเปลี่ยนสีให้ดูสดใส มีชีวิตชีวา หรือดูเท่ ดุดัน ตามแบบที่เราชอบ เหมือนเวลาที่เราเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าให้เข้ากับอารมณ์ในแต่ละวัน การมีรถที่สีสันสะดุดตาและบ่งบอกถึงตัวตน มันคงจะเพิ่มความสุขและความมั่นใจในการขับขี่ได้ไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ
เทรนด์การ “แร็ป” หรือ “ติดฟิล์มเปลี่ยนสีรถ” จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนรักรถที่อยากปรับลุคใหม่ให้รถยนต์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาเท่ากับการทำสีใหม่ทั้งคัน แถมยังมีสีสันและลวดลายให้เลือกมากมาย ตั้งแต่สีเงา สีแมท สีเมทัลลิก ไปจนถึงสีเหลือบมุก หรือลายคาร์บอนไฟเบอร์สุดเท่ แต่คำถามสำคัญที่เจ้าของรถหลายคนยังกังวลก็คือ… แล้วการเปลี่ยนสีรถด้วยฟิล์มแบบนี้ มัน “ถูกกฎหมาย” หรือเปล่า? จะมีปัญหาตอนนำรถไปตรวจสภาพเพื่อต่อภาษีประจำปีหรือไม่? บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบ พร้อมแนะนำขั้นตอนการดำเนินการให้ถูกต้อง สบายใจหายห่วง ขับรถสวยอย่างมีสไตล์ได้เต็มที่ครับ
เรื่องเล่าจากเจ้าของรถ: เปลี่ยนรถบ้านๆ ให้กลายเป็นรถแฟชั่น ด้วยฟิล์มเปลี่ยนสี
ลองมาฟังเรื่องราวของ “คุณบี” พนักงานออฟฟิศสาวที่มี Honda City สีบรอนซ์เงินเป็นเพื่อนคู่ใจในการเดินทาง คุณบีเป็นคนชอบแต่งตัว มีสไตล์ที่ชัดเจน แต่เธอมักจะรู้สึกว่ารถของเธอดู “ธรรมดา” เกินไป ไม่เข้ากับบุคลิกที่สดใสของเธอเลย เธอเคยคิดอยากทำสีรถใหม่ แต่ก็เสียดายสีเดิม และกังวลเรื่องราคาที่ค่อนข้างสูง
วันหนึ่งคุณบีได้เห็นรถของเพื่อนที่ติดฟิล์มเปลี่ยนสีเป็นสีชมพูพาสเทลสุดน่ารัก เธอจึงเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการแร็ปฟิล์มอย่างจริงจัง หลังจากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและดูตัวอย่างสีต่างๆ คุณบีตัดสินใจเลือกฟิล์มสีฟ้าอมเขียว (Teal) แบบเนื้อแมท ซึ่งเป็นสีที่เธอมองว่าสะท้อนความเป็นตัวเธอได้ดี ดูทันสมัย ไม่ซ้ำใคร และไม่ฉูดฉาดจนเกินไป
ขั้นตอนการติดตั้งใช้เวลาประมาณ 2 วัน ทีมช่างมืออาชีพจัดการติดฟิล์มให้รถของคุณบีอย่างประณีต ผลลัพธ์ที่ได้คือ Honda City คันเดิม กลายเป็นรถคันใหม่ที่สวยเด่นสะดุดตา ทุกครั้งที่คุณบีขับรถไปทำงานหรือไปเที่ยว เธอรู้สึกมั่นใจและมีความสุขมากขึ้น เพื่อนๆ และคนรอบข้างต่างก็ชมว่ารถสีใหม่สวยมาก และดูเข้ากับสไตล์ของคุณบีสุดๆ ที่สำคัญที่สุด หลังจากเปลี่ยนสีเรียบร้อย คุณบีได้ดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถกับกรมการขนส่งทางบกตามขั้นตอน ทำให้เธอสามารถนำรถไปตรวจสภาพและต่อภาษีได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงแค่เปลี่ยนสีรถ แต่ยังเปลี่ยนความรู้สึกในการขับขี่ของคุณบีให้เต็มไปด้วยความสนุกและสไตล์อย่างแท้จริง
ฟิล์มเปลี่ยนสี vs. ทำสีใหม่: เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ และทำอย่างไรให้ถูกกฎหมาย?
การเปลี่ยนสีรถมีสองวิธีหลักๆ คือ การติดฟิล์มเปลี่ยนสี (Car Wrapping) และการทำสีใหม่ (Repainting) ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมแตกต่างกันไป ลองมาดูตารางเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นครับ
คุณสมบัติ | ฟิล์มเปลี่ยนสี (Car Wrap) | ทำสีใหม่ (Repainting) |
---|---|---|
ความหลากหลาย | มีสี ลวดลาย และพื้นผิว (แมท, เงา, ด้าน, เมทัลลิก, คาร์บอน) ให้เลือกมากมาย | จำกัดตามเฉดสีที่มี หรือต้องผสมพิเศษ |
การปกป้องสีเดิม | ช่วยปกป้องสีเดิมจากรอยขีดข่วนเล็กน้อย และ UV | เป็นการทับหรือลอกสีเดิมออก |
การคืนสภาพเดิม | สามารถลอกฟิล์มออกเพื่อกลับไปใช้สีเดิมได้ (หากใช้ฟิล์มคุณภาพดีและติดตั้งถูกวิธี) | เป็นการเปลี่ยนแปลงถาวร |
ระยะเวลาดำเนินการ | ประมาณ 1-5 วัน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน | ประมาณ 1-3 สัปดาห์ หรือนานกว่านั้น |
วัสดุ/ประเภทฟิล์ม | ส่วนใหญ่เป็น PVC หรือ TPU (Polyurethane) คุณภาพแตกต่างกันไป | สีพ่นรถยนต์ (สูตรน้ำ หรือ สูตรทินเนอร์) |
อายุการใช้งาน | ประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพฟิล์ม การติดตั้ง และการดูแลรักษา | ยาวนานกว่าฟิล์ม (หากดูแลดี) แต่ก็อาจซีดจางหรือเสียหายได้ |
ราคา (โดยประมาณสำหรับรถเก๋ง) | เริ่มต้นประมาณ 15,000 – 60,000+ บาท | เริ่มต้นประมาณ 25,000 – 100,000+ บาท (ขึ้นอยู่กับอู่และคุณภาพสี) |
ความเหมาะสม | ผู้ที่ต้องการความแปลกใหม่ เปลี่ยนสีบ่อยๆ ปกป้องสีเดิม หรือต้องการลวดลายพิเศษ | ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสีถาวร หรือซ่อมแซมสีเดิมที่เสียหายหนัก |
หัวใจสำคัญ: ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ไม่ว่าคุณจะเลือกเปลี่ยนสีรถด้วยวิธีใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการ “แจ้งเปลี่ยนสีรถ” กับกรมการขนส่งทางบก (Department of Land Transport – DLT) ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
- ดำเนินการเปลี่ยนสีรถให้เรียบร้อย: ไม่ว่าจะติดฟิล์มหรือทำสีใหม่ ต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อน
- เตรียมเอกสาร:
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มสีฟ้า) ตัวจริง
- บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ ตัวจริง
- หลักฐานการเปลี่ยนสี เช่น ใบเสร็จรับเงินจากร้าน/อู่ (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถไม่ได้มาดำเนินการเอง) พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ
- ยื่นคำขอ ณ กรมการขนส่งทางบก: นำรถไปที่สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ (ดูในเล่มทะเบียน) หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขาใดก็ได้ที่สะดวก ยื่น “คำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนรถ” โดยระบุว่าต้องการ “แจ้งเปลี่ยนสีรถ”
- นำรถเข้ารับการตรวจสอบ: เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสภาพรถและสีที่เปลี่ยนใหม่ว่าตรงกับที่แจ้งไว้หรือไม่
- ชำระค่าธรรมเนียม: มีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยสำหรับการแก้ไขข้อมูลในเล่มทะเบียน และค่าตรวจสภาพ (ตรวจสอบอัตราปัจจุบัน ณ วันดำเนินการ)
- รอรับเล่มทะเบียนคืน: เจ้าหน้าที่จะบันทึกการเปลี่ยนแปลงสีลงในใบคู่มือจดทะเบียนรถ และมอบคืนให้คุณ
ข้อควรรู้เพิ่มเติม:
- ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 13 ระบุว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงสีรถยนต์ให้แตกต่างไปจากที่จดทะเบียนไว้ เจ้าของรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 7 วัน นับแต่วันที่เปลี่ยนแปลง (แต่ในทางปฏิบัติ หลายคนแนะนำว่าไม่ควรเกิน 15 วัน)
- หากไม่แจ้งเปลี่ยนสีตามกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และที่สำคัญคือ จะไม่สามารถต่อภาษีประจำปีหรือตรวจสภาพรถผ่านได้
- สามารถแจ้งเปลี่ยนเป็นสีอะไรก็ได้ที่ระบุได้ชัดเจน เช่น สีแดง, สีน้ำเงินด้าน, สีเทาเมทัลลิก แต่ควรหลีกเลี่ยงสีหรือลวดลายที่อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นรถยนต์ของหน่วยงานราชการ เช่น รถพยาบาล รถตำรวจ
เสียงจากผู้ใช้จริง: ความสุขที่ได้ขับรถในสไตล์ที่เป็นคุณ
การตัดสินใจเปลี่ยนสีรถด้วยฟิล์ม ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังเป็นเรื่องของความรู้สึกและความมั่นใจ ลองฟังความเห็นจากเจ้าของรถท่านอื่นๆ ที่ได้สัมผัสประสบการณ์นี้:
“ตอนแรกก็กลัวๆ ครับว่าจะยุ่งยากเรื่องแจ้งเปลี่ยนสี แต่พอไปทำจริงๆ ที่ขนส่ง แป๊บเดียวเอง เอกสารครบก็ง่ายมาก ตอนนี้ขับรถไปไหนก็มีแต่คนมอง ชอบมากครับ รู้สึกรถมันเป็นของเราจริงๆ” – คุณต้น, เจ้าของ Toyota Vios แร็ปสีเทา Nardo Grey
“เบื่อสีขาวเดิมๆ ของรถมาก อยากได้อะไรที่มันสดใส พอมาเจอสีเหลืองเลมอนนี่คือใช่เลย! ติดฟิล์มช่วยให้รถดูใหม่ขึ้นเยอะ แถมยังรักษาสีเดิมไว้ได้ด้วย ตอนไปต่อภาษีก็ผ่านฉลุยเพราะเราไปแจ้งเปลี่ยนสีเรียบร้อยแล้ว สบายใจค่ะ” – คุณฟ้า, เจ้าของ Mazda 2 แร็ปสีเหลืองสดใส
“ผมเป็นคนชอบแต่งตัวแนวสตรีท เลยอยากให้รถมันดูเข้ากัน เลยเลือกลายพรางดิจิทัลเท่ๆ ไปเลย ตอนแรกก็หวั่นๆ ว่าลายแบบนี้จะแจ้งผ่านไหม แต่ก็ผ่านนะครับ เจ้าหน้าที่แค่ระบุสีหลักๆ ในเล่มให้ ขับไปไหนก็รู้สึกภูมิใจ เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสไตล์เราจริงๆ” – คุณเอก, เจ้าของ Mitsubishi Mirage แร็ปลลายพราง
ถึงเวลาปลดปล่อยสไตล์ของคุณ สู่รถยนต์คู่ใจแล้วหรือยัง?
เห็นไหมครับว่า การทำให้รถยนต์ของคุณสะท้อนสไตล์ความเป็นตัวคุณ เหมือนกับการเลือกเสื้อผ้าที่คุณชอบนั้น ไม่ใช่เรื่องยากและไม่ได้ผิดกฎหมายอย่างที่หลายคนกังวล เพียงแค่คุณเลือกฟิล์มเปลี่ยนสีที่มีคุณภาพ ติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ และดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีกับกรมการขนส่งทางบกให้ถูกต้องตามขั้นตอน คุณก็สามารถขับขี่รถยนต์คันโปรดในสีสันใหม่ที่บ่งบอกความเป็นคุณได้อย่างมั่นใจ และผ่านการตรวจสภาพเพื่อต่อภาษีประจำปีได้อย่างสบายๆ
หากคุณคือคนหนึ่งที่อยากเพิ่มสีสันและความโดดเด่นให้รถเก๋งคันเดิม อยากให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสุขและความมั่นใจในสไตล์ที่เป็นคุณ อย่ารอช้า! ลองเข้ามาปรึกษา พูดคุย และเลือกชมตัวอย่างสีฟิล์มคุณภาพเยี่ยมกับเราได้เลย ทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและบริการติดตั้งอย่างมืออาชีพ เพื่อเปลี่ยนรถของคุณให้สวยสะดุดตาและถูกกฎหมาย
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายประเมินราคาฟรีได้ที่:
📱 สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนสีรถหรือฟิล์มใสกันรอย?
สามารถติดต่อเราผ่าน LINE ได้เลย:

🌐 เว็บไซต์หลัก: https://tpuwraps.com
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- Q: การติดฟิล์มเปลี่ยนสีรถใช้เวลานานเท่าไหร่?
- A: โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดรถ ความซับซ้อนของตัวถัง และประเภทของฟิล์มที่เลือกครับ บางกรณีที่ต้องการความประณีตสูงอาจใช้เวลาถึง 5 วัน
- Q: ฟิล์มเปลี่ยนสีจะทำลายสีเดิมของรถหรือไม่?
- A: หากใช้ฟิล์มคุณภาพดี และติดตั้ง/ลอกออกโดยช่างผู้ชำนาญ ฟิล์มจะไม่ทำลายสีเดิมของรถครับ ในทางกลับกัน ฟิล์มยังช่วยปกป้องสีเดิมจากรอยขีดข่วนเล็กน้อย มูลนก ยางไม้ และรังสี UV ได้อีกด้วย แต่หากใช้ฟิล์มราคาถูก คุณภาพต่ำ หรือลอกออกไม่ถูกวิธี อาจทิ้งคราบกาวหรือทำให้แล็กเกอร์เสียหายได้
- Q: ต้องดูแลรักษารถที่ติดฟิล์มเปลี่ยนสีอย่างไร?
- A: การดูแลไม่ยุ่งยากครับ ควรล้างรถด้วยมือโดยใช้แชมพูล้างรถสูตรอ่อนโยนและฟองน้ำนุ่มๆ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจ่อใกล้ๆ ขอบฟิล์ม ไม่ควรขัดเคลือบสีด้วยเครื่อง และหลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง สำหรับฟิล์มแมทหรือฟิล์มด้าน ควรใช้น้ำยาดูแลรักษาสำหรับฟิล์มประเภทนั้นๆ โดยเฉพาะ
- Q: ถ้าติดฟิล์มเปลี่ยนสีแล้วไม่ไปแจ้งที่ขนส่ง จะเป็นอะไรไหม?
- A: มีความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 ครับ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และที่สำคัญคือ รถของคุณจะไม่สามารถผ่านการตรวจสภาพเพื่อต่อภาษีประจำปีได้ ทำให้ไม่สามารถใช้งานรถบนท้องถนนได้อย่างถูกกฎหมายครับ
- Q: สามารถติดฟิล์มสีอะไร หรือลายแบบไหนก็ได้ใช่ไหม?
- A: โดยทั่วไปสามารถเลือกสีได้หลากหลายครับ ทั้งสีเงา สีแมท สีเมทัลลิก หรือแม้แต่สีเหลือบ แต่ในการแจ้งเปลี่ยนสีกับกรมการขนส่งฯ เจ้าหน้าที่จะระบุเป็น “สีหลัก” ที่มองเห็นได้ชัดเจนลงในเล่มทะเบียน เช่น แจ้งเป็น “สีฟ้าด้าน” หรือ “สีเทา” (สำหรับลายพราง อาจระบุสีหลักที่เด่นที่สุด) ควรหลีกเลี่ยงการใช้สีหรือสติ๊กเกอร์ที่เลียนแบบเครื่องหมาย หรือสีของรถหน่วยงานราชการ เช่น รถพยาบาล รถตำรวจ รถทหาร เพราะอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ครับ
สรุป: ขับรถสวยอย่างมั่นใจ สไตล์คุณ ถูกกฎหมายแน่นอน
การเปลี่ยนสีรถยนต์ด้วยฟิล์ม เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเจ้าของรถเก๋งธรรมดาที่ต้องการเพิ่มความสวยงาม โดดเด่น และสะท้อนสไตล์ส่วนตัว ไม่ต่างจากการเลือกเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และข้อกังวลที่ว่า “จะผ่านตรวจสภาพหรือไม่” นั้น ก็หมดไปได้เลย เพียงคุณทำตามขั้นตอนการ “แจ้งเปลี่ยนสีรถ” กับกรมการขนส่งทางบกให้ถูกต้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด
ดังนั้น อย่าปล่อยให้ความกังวลมาบดบังความต้องการที่จะแสดงออกถึงตัวตนของคุณ ผ่านรถยนต์คู่ใจเลยครับ การมีรถที่สวยตรงใจ และถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเรื่องที่ทำได้จริง เริ่มต้นค้นหาสีสันและสไตล์ที่ใช่สำหรับรถของคุณวันนี้ แล้วขับขี่ไปบนท้องถนนอย่างมีความสุขและมั่นใจยิ่งกว่าเดิม!